คุณไม่ควรเชื่อถือผลการทดสอบภายในครั้งเดียว
การทดสอบความเร็วอินเตอร์เน็ต ขึ้นอยู่กับบริการที่คุณใช้ คุณอาจได้รับผลลัพธ์ที่แตกต่างกันอย่างมาก แล้วคุณจะรู้ได้อย่างไร และมันสำคัญแค่ไหน เมื่อไหร่ที่คุณควรจะทดสอบความเร็วอินเตอร์เน็ต
เนื้อหาสำคัญ
เมื่อไหร่ควรตรวจสอบความเร็วอินเตอร์เน็ต
การตรวจสอบความเร็วอินเทอร์เน็ตควรทำเมื่อคุณรับรู้ว่าการเชื่อมต่อของคุณช้าลง หรือเมื่อคุณต้องการตรวจสอบว่าความเร็วที่คุณจ่ายเป็นเงินตรงกับที่คุณได้รับหรือไม่ การทดสอบเร็วๆนี้ช่วยให้คุณดูแลและปรับปรุงความเร็วของเครือข่ายของคุณได้เป็นอย่างดี
เว็บไซต์บริการทดสอบความเร็วอินเตอร์เน็ต
มีเว็บไซต์บริการทดสอบความเร็วอินเตอร์เน็ตมากมายให้เลือก เช่น
และอื่นๆ หรือผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตของคุณอาจจะมีบริการทดสอบความเร็วอินเตอร์เน็ตของตัวเองด้วย
ในการทดสอบความเร็วอินเตอร์เน็ตที่มักจะพบคือ เมื่อทำการทดสอบที่แตกต่างกันในบริการเดียวกัน โดยเฉพาะผู้ให้บริการ Speedtest.net ซึ่งใช้บริการเซิร์ฟเวอร์ที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับว่าคุณอยู่พื้นที่จังหวัดอะไร เป็นต้น
ในบริการทดสอบความเร็วอินเตอร์เน็ตบางบริการคุณสามารถเลือกเซิร์ฟเวอร์ที่ใกล้ที่สุด แต่บางบริการไม่มีทางเลือกจึงต้องเลือกใช้เซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ไกลออกไป
แต่หากอยู่ในประเทศไทย การใช้ Speedtest.net เหมือนจะได้รับความนิยมที่มากกว่า
การทดสอบความเร็วอินเตอร์เน็ตย่อมให้ผลลัพธ์ที่ต่างกัน
เนื่องจากมีตัวแปรมากมายที่เกี่ยวข้อง ผลลัพท์ที่ได้จากการทดสอบของแต่ล่ะบริการจึงแตกต่างกัน แต่ระยะทางดูเหมือนจะส่งผลต่อความเร็วที่รายงาน ดังนั้นอาจจะพบว่าเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ใกล้บ้านจะรายงานความเร็วที่เร็วกว่า
ในบริการบางอย่างมีคลุมเคลือในการรายงาน เช่น Fast.com แสดงความเร็วเพียงอย่างเดียว จนกว่าคุณจะกดเลือกดูเพิ่มเติม และเครื่องมือทดสอบของ CloudFlare จะแสดงข้อมูลได้มากกว่า จากความเร็วอินเตอร์เน็ตที่ผมใช้มีความเร็ว 1Gbps / 500 Mbps ( 1000Mbps/500Mbps ) นี่คือตัวอย่างการทดสอบ
จากการทดสอบทั้ง 3 บริการมีความใกล้เคียงกัน โดยที่ Fast.com จะดูสวยงามและเรียบง่าย CloudFlare จะรายผลละเอียดแต่รายงานผลลัพธ์ได้ช้าที่สุด หากอินเตอร์เน็ตของคุณมีความเร็วตำ่ในขณะนั้นคงต้องใช้เวลาอย่างแน่นอน ส่วน Speedtest.net จะมีโฆษณาแฝง หากคุณต้องการใช้แบบไม่มีโฆษณา คุณจำเป็นต้องใช้แบบจ่ายเงิน จากบริการทั้ง 3 ดังภาพจะเห็นว่า Speedtest.net เลือกเซิร์ฟเวอร์ที่ใกล้ที่สุดคือ นครราชสีมา ในขณะที่ Fast.com และ CloudFlare เลือกใช้เซิร์ฟเวอร์ที่กรุงเทพมหานคร
เมื่อความเร็วอินเทอร์เน็ตเป็นเรื่องสำคัญ
อย่างไรก็ตาม เมื่อคุณได้ทราบผลการทดสอบความเร็วอินเตอร์เน็ตแล้ว ในการทดสอบความเร็วอินเตอร์เน็ตอาจจะไม่ได้มีความหมายหรือประโยชน์มากมายสักเท่าไหร่นัก เนื่องจากการทดสอบจะมีความแตกต่างกันออกไปในแต่ละช่วงเวลาและอุปกรณ์ เช่น หากคุณใช้แพ็คเกจความเร็วอินเตอร์เน็ต 1 Gbps /500Mbps
- คุณใช้ Wi-Fi ในการทดสอบความเร็วอินเตอร์เน็ต ในขณะที่ อุปกรณ์รับส่ง หรือ เร้าท์เตอร์ ส่งสัญญาณ Wi-Fi 2.4 GHz ที่ความเร็วไม่เกิน 150 Mbps เมื่ออยู่ห่างจากเร้าท์เตอร์
- หากคุณใช้คอมพิวเตอร์รุ่นเก่าที่มีความเร็ว Ethernet 10/100 Mbps
อุปกรณ์เหล่านี้จะส่งผลต่อการทดสอบความเร็วอินเตอร์เน็ต ทำให้ค่าคลาดเคลื่อนจากความจริงได้
ดังนั้น การพิจารณาอุปกรณ์เราท์เตอร์และอุปกรณ์ทดสอบความเร็วอินเตอร์เน็ตก็เป็นเรื่องที่สำคัญ หากคุณเชื่อมต่อสัญญาณ Ethernet ด้วยสาย Lan CAT 6 กับเครื่องคอมพิวเตอร์หรือแล็ปท็อปที่รองรับความเร็ว 10/100/1000 Mbps ก็ย่อมอ่านค่าได้ใกล้เคียงมากกว่า
ดังนั้น หากคุณทำการทดสอบได้ในค่าที่ใกล้เคียงกับแพ็คเกจที่ใช้ ก็เพียงพอแล้ว (โดยส่วนใหญ่ผู้คนมักจะทดสอบความเร็วอินเตอร์เน็ตในเวลาที่อินเตอร์เน็ตมีปัญหาเท่านั้น)
การทดสอบเหล่านี้ คุ้มค่ากับแพ็กเกจอินเตอร์เน็ตที่จ่ายไปไหม
หากคุณต้องการทราบความคุ้มค่าในการใช้อินเตอร์เน็ตต่อแพ็กเกจที่คุณชำระไปหรือไม่ ในเบื้องต้น คุณควรทำการทดสอบความเร็วอินเตอร์เน็ตเมื่อรู้สึกว่าอินเตอร์เน็ตมีความเร็วที่ต่ำ โหลดช้า เมื่อคุณทำการทดสอบความเร็วอินเตอร์เน็ตแล้วใกล้เคียงกับแพ็จเกจที่ใช้ นั่นอาจจะเป็นสิ่งที่คุณควรพิจารณาในการเพิ่มแพ็จเกจ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าเดิมและรองรับความเร็วที่คุณใช้อยู่
แต่หากคุณทดสอบความเร็วอินเตอร์เน็ตแล้วพบว่ามีความเร็วที่ต่ำกว่าครึ่งของแพ็กเกจ เช่น คุณใช้ความเร็วอินเตอร์เน็ต 1000Mbps / 500Mbps แต่ทดสอบได้ที่ 400 – 500 Mbps / 0 – 100 Mbps ทำการทดสอบหลายครั้งจนมั่นใจค่าเท่าเดิม คุณควรแจ้งผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตของคุณว่าอินเตอร์เน็ตที่คุณกำลังใช้งานอยู่มีปัญหาขัดข้อง
ท้ายที่สุดหากคุณไม่รู้สึกว่าอินเตอร์เน็ตช้าจนเกินไป และทดสอบความเร็วอินเตอร์เน็ตได้ใกล้เคียงกับแพ็กเกจที่คุณใช้งาน คุณไม่จำเป็นต้องยึดติดกับตัวเลขนั้นเกินไป คุณควรเลือกใช้บริการแพ็กเกจอินเตอร์เน็ตในราคาที่เหมาะสมสำหรับคุณ
ที่มา : How-to Geek