แปลง PDF เป็น Word อย่างง่าย แบบที่คิดไม่ถึง !

ภาพหน้าจอคอมพิวเตอร์แสดงการแปลง PDF เป็น Word อย่างง่าย มีสัญลักษณ์ไฟล์ PDF และ Word อยู่บนหน้าจอ พร้อมข้อความ 'แปลง PDF เป็น Word อย่างง่าย' และภาพการ์ตูนตัวละครชายกำลังใช้แล็ปท็อป

เอกสาร PDF เป็นรูปแบบไฟล์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในการนำเสนอและแบ่งปันข้อมูล ด้วยคุณสมบัติที่คงรูปแบบเดิมได้ดีบนทุกอุปกรณ์ อย่างไรก็ตาม ในบางครั้ง เราอาจต้องการแก้ไขเนื้อหาภายในไฟล์ PDF ซึ่งเป็นข้อจำกัดหลักของไฟล์ประเภทนี้ แต่ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป เพราะมีวิธีง่ายๆ ที่คุณอาจคาดไม่ถึงในการ แปลง PDF เป็น Word เพื่อให้คุณสามารถแก้ไข จัดการ และปรับปรุงเอกสารของคุณได้อย่างอิสระ

เปิดไฟล์ PDF ด้วย MS Word วิธีง่ายๆ ที่หลายคนมองข้าม

คุณรู้หรือไม่ว่าโปรแกรม Microsoft Word ที่คุ้นเคยนั้น สามารถช่วยคุณ แปลง ไฟล์ PDF ให้เป็น Word ได้อย่างง่ายดาย? นี่คือขั้นตอนที่คุณอาจไม่เคยลอง

  1. เปิดแอปพลิเคชัน Microsoft Word เริ่มต้นด้วยการเปิดโปรแกรม Microsoft Word บนคอมพิวเตอร์ของคุณ
  2. เปิดไฟล์ PDF คลิกที่เมนู “ไฟล์” (File) จากนั้นเลือก “เปิด” (Open) หรือกดปุ่ม Ctrl+O บนคีย์บอร์ด เลือกไฟล์ PDF ที่คุณต้องการแล้วคลิก “เปิด”
  3. การแก้ไขไฟล์ Microsoft Word จะแสดงข้อความแจ้งเตือนเกี่ยวกับการแปลงไฟล์ PDF เป็นเอกสาร Word ที่แก้ไขได้ คลิก “ตกลง” (OK) รอสักครู่ Word จะแสดงเนื้อหาในเวอร์ชัน Word ให้คุณสามารถแก้ไข จัดรูปแบบ หรือเพิ่มเติมข้อมูลได้ตามต้องการ หลังจากแก้ไขเสร็จสิ้น คุณสามารถบันทึกเป็นไฟล์ .docx หรือ .doc ได้ตามปกติ

ข้อควรทราบ การ แปลงไฟล์ PDF ให้เป็น Word มักจะทำได้ดีที่สุดกับเอกสาร PDF ที่สร้างจากไฟล์ Word หรือโปรแกรมประมวลผลคำอื่นๆ หากไฟล์ PDF นั้นมาจากการสแกนเอกสารที่เป็นกระดาษ อาจจะไม่สามารถแปลงเป็นข้อความที่แก้ไขได้โดยตรง หรือผลลัพธ์ที่ได้อาจไม่สมบูรณ์และต้องมีการแก้ไขเพิ่มเติม  ซึ่งอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับเวอร์ชันของ Microsoft Word ที่รองรับด้วย

แปลงไฟล์ PDF เป็น Word ด้วย Google Drive อีกหนึ่งทางเลือกฟรีและสะดวก

สำหรับผู้ที่ใช้งาน Google Drive เป็นประจำ การ แปลง PDF เป็น Word ก็สามารถทำได้อย่างง่ายดายผ่านแพลตฟอร์มนี้

  1. อัปโหลดไฟล์ PDF ไปยัง Google Drive: เข้าสู่บัญชี Google Drive ของคุณและอัปโหลดไฟล์ PDF ที่ต้องการ
  2. เปิดด้วย Google Docs คลิกขวาที่ไฟล์ PDF ที่อัปโหลดแล้วเลือก “เปิดด้วย” (Open with) จากนั้นเลือก “Google เอกสาร” (Google Docs)
  3. แก้ไขและดาวน์โหลดเป็น Word Google Docs จะทำการ แปลงไฟล์ PDF ให้เป็น Word และเปิดไฟล์ในรูปแบบที่สามารถแก้ไขได้ คุณสามารถแก้ไขเนื้อหาได้ตามต้องการ เมื่อแก้ไขเสร็จแล้ว ให้ไปที่เมนู “ไฟล์” (File) เลือก “ดาวน์โหลด” (Download) แล้วเลือก “Microsoft Word (.docx)” ไฟล์ Word ที่แปลงแล้วจะถูกดาวน์โหลดลงในคอมพิวเตอร์ของคุณ

ข้อควรทราบการใช้ Google Drive ในการแปลงไฟล์ PDF เป็น Word เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด คือ ขนาดไฟล์ไม่ควรเกิน 2 MB มีข้อความสูงอย่างน้อย 10 พิกเซล และแบบอักษรควรใช้แบบทั่วไป เช่น Arial หรือ Times New Roman (ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ แปลงไฟล์ PDF และรูปภาพเป็นข้อความ)

Google Drive เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการ แปลงไฟล์ PDF เป็น Google doc โดยไม่จำเป็นต้องติดตั้งโปรแกรมเพิ่มเติม Google doc คือแอปสำหรับทำเอกสารประเภทเดียวกันกับ Word สามารถใช้งานแทน MS Word ได้

ภาพแสดงวิธีการแปลงไฟล์ PDF เป็น Google Docs โดยมีขั้นตอนการเลือก Google Drive, การอัปโหลดไฟล์ PDF, และการเลือกเปิดด้วย Google เอกสาร

แนะนำแอปแปลงไฟล์ PDF เป็น Word ออนไลน์ สะดวก รวดเร็ว และหลากหลาย

ในยุคปัจจุบัน มีแอปพลิเคชันออนไลน์มากมายที่ให้บริการ แปลง PDF เป็น Word ได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว นี่คือตัวอย่างบางส่วนที่คุณสามารถลองใช้งานได้

  • iLovePDF (https://www.ilovepdf.com/th/pdf_to_word) เป็นเว็บไซต์ยอดนิยมสำหรับการจัดการไฟล์ PDF ใช้งานพื้นฐานได้ฟรี หากต้องการฟังก์ชันเพิ่มเติม เช่น การแปลงไฟล์จำนวนมาก หรือการแปลงไฟล์ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น จะมีแผนการชำระเงินให้เลือก (https://www.ilovepdf.com/th/pricing)
  • Smallpdf (https://smallpdf.com/pdf-to-word) อีกหนึ่งเครื่องมือออนไลน์ที่ใช้งานง่าย มีฟังก์ชันพื้นฐานให้ใช้งานฟรี แต่หากต้องการคุณสมบัติขั้นสูงเพิ่มเติม จะมีแผนการชำระเงิน (https://smallpdf.com/pricing)
  • PDF2Go (https://www.pdf2go.com/pdf-to-word) ให้บริการฟรี 16 ครั้ง คุณสามารถทดลองใช้งานก่อนได้ หากถูกใจก็สามารถพิจารณาใช้บริการรายเดือนได้
  • PDF24 Tools (https://tools.pdf24.org/en/pdf-to-word) เป็นเครื่องมือออนไลน์ฟรีอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าใช้งานและไม่มีค่าใช้จ่าย
  • Nitro (https://www.gonitro.com/pdf-to-word) มีเวอร์ชันทดลองใช้งาน 14 วัน ให้คุณได้สัมผัสประสิทธิภาพก่อนตัดสินใจ
  • PDF Candy (https://pdfcandy.com/pdf-to-word.html) เป็นเครื่องมือฟรี แต่อาจมีฟังก์ชันขั้นสูงที่ต้องชำระเงินเพิ่มเติม
  • Free PDF Convert (https://www.freepdfconvert.com/pdf-to-word) ให้บริการฟรี และอาจมีตัวเลือกเพิ่มเติมแบบมีค่าใช้จ่าย
  • Online2PDF (https://online2pdf.com/pdf2word) เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือออนไลน์ฟรีที่แนะนำ

แอปพลิเคชันออนไลน์เหล่านี้เป็นทางเลือกที่สะดวกและไม่ต้องติดตั้งโปรแกรมใดๆ เพียงแค่เลือกเว็บไซต์ที่ถูกใจ อัปโหลดไฟล์ PDF ของคุณ และดาวน์โหลดไฟล์ Word ที่แปลงแล้ว

บทสรุป

การ แปลง PDF เป็น Word ไม่ได้ยากอย่างที่คิด ด้วยวิธีการที่หลากหลายและเครื่องมือที่มีอยู่มากมาย คุณสามารถเลือกวิธีที่เหมาะสมกับความต้องการและสถานการณ์ของคุณ เพื่อให้การจัดการเอกสารของคุณเป็นเรื่องง่ายและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น