เมื่อสัมผัสเครื่องคอมพิวเตอร์แล้วรู้สึกไฟดูด !! ปัญหา สาเหตุและการแก้ไข

ผู้หญิงกำลังใช้แล็ปท็อป โดยมีข้อความ "ทำไม? เวลาจับโน้ตบุ๊ก (คอม) ถึงโดนไฟดูด !!" ปรากฏบนภาพ

การสัมผัสเครื่องคอมพิวเตอร์แล้วรู้สึกเหมือนโดนไฟดูด อาจทำให้หลายคนตกใจและกังวล บทความนี้จะอธิบายถึงสาเหตุที่เป็นไปได้ วิธีการป้องกัน และสิ่งที่ควรทำเมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้

ผู้หญิงกำลังใช้แล็ปท็อป โดยมีข้อความ "ทำไม? เวลาจับโน้ตบุ๊ก (คอม) ถึงโดนไฟดูด !!" ปรากฏบนภาพ

สาเหตุที่เป็นไปได้ ต้นตอของอาการไฟดูดจากคอมพิวเตอร์

  1. ไฟฟ้าสถิต ไฟฟ้าสถิตเกิดจากการสะสมประจุไฟฟ้าบนพื้นผิววัตถุ เมื่อร่างกายสัมผัสวัตถุที่มีประจุต่างกัน จะเกิดการถ่ายเทประจุอย่างรวดเร็ว ทำให้รู้สึกเหมือนโดนไฟช็อตเบาๆ ซึ่งมักเกิดขึ้นในสภาพอากาศแห้ง โดยเฉพาะในห้องที่มีพรมหรือเฟอร์นิเจอร์วัสดุสังเคราะห์
  2. ไฟฟ้ารั่ว ไฟฟ้ารั่วเกิดจากการที่กระแสไฟฟ้าไหลออกจากวงจรไฟฟ้าปกติ ซึ่งอาจเกิดจากสายไฟชำรุด ฉนวนหุ้มสายไฟเสื่อมสภาพ หรือการต่อสายดินที่ไม่ถูกต้อง และไฟฟ้ารั่วอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ หากสัมผัสกับกระแสไฟฟ้าที่รั่วไหล
  3. การต่อสายดินที่ไม่ถูกต้อง การต่อสายดินที่ไม่ถูกต้อง หรือไม่มีการต่อสายดิน อาจทำให้กระแสไฟฟ้าไหลผ่านตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ และเมื่อร่างกายสัมผัสกับตัวเครื่อง จะทำให้รู้สึกเหมือนโดนไฟดูด
  4. อุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆ ในบ้าน เครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ ภายในบ้าน หากเกิดการรั่วของกระแสไฟฟ้า อาจส่งผลให้เกิดการเหนี่ยวนำกระแสไฟฟ้ามาที่คอมพิวเตอร์ได้
ภาพวาดคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะที่มีเครื่องหมายเตือนไฟฟ้าช็อตและหน้าคนตกใจ แสดงถึงอันตรายจากไฟดูด

วิธีการป้องกันเมื่อสัมผัสคอมพิวเตอร์แล้วมีไฟดูด

วิธีการป้องกันชั่วคราว (เพื่อป้องกันไฟดูดเมื่อต้องสัมผัสเครื่องคอมพิวเตอร์)

  1. งดสัมผัสเครื่องคอมพิวเตอร์โดยตรง หลีกเลี่ยงการสัมผัสตัวเครื่องคอมพิวเตอร์โดยตรง โดยเฉพาะส่วนที่เป็นโลหะ
  2. ใช้พรมรองเท้าขณะใช้งาน วางพรมรองเท้าที่ทำจากวัสดุที่ไม่นำไฟฟ้าไว้ (ผ้ายาง เสื่อโยคะ ผ้าเช็ดเท้าหนาๆ) หากต้องสัมผัสเครื่องคอมพิวเตอร์ เพื่อป้องกันไม่ให้เท้าสัมผัสกับพื้นโดยตรง
  3. ใส่รองเท้าพื้นยางเมื่อใช้งาน การสวมรองเท้าที่มีพื้นยางขณะใช้งานคอมพิวเตอร์ จะช่วยป้องกันไม่ให้ไฟฟ้าไหลผ่านตัวลงพื้นได้ ป้องกันไฟดูดได้อย่างดี

วิธีการป้องกันถาวร (เพื่อแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุ)

  1. ต่อสายดินให้ถูกต้อง ตรวจสอบให้แน่ใจว่าปลั๊กไฟและสายไฟของคอมพิวเตอร์มีการต่อสายดินอย่างถูกต้อง
  2. ใช้ปลั๊กไฟที่มีคุณภาพ ปลั๊กไฟที่มีคุณภาพจะมีการออกแบบและวัสดุที่ดีกว่า ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดไฟลัดวงจรหรือไฟกระชาก ซึ่งอาจทำให้เกิดไฟรั่วได้ นอกจากนี้ ปลั๊กไฟที่มีคุณภาพมักจะมีระบบป้องกันเพิ่มเติม เช่น ระบบตัดไฟอัตโนมัติ เมื่อเกิดความผิดปกติในวงจรไฟฟ้า
  3. หลีกเลี่ยงการใช้คอมพิวเตอร์ในที่ชื้น แม้ว่าการต่อสายดินจะช่วยป้องกันไฟรั่ว แต่ความชื้นยังคงเป็นปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดไฟดูดได้ ความชื้นทำให้ร่างกายมีค่าความต้านทานไฟฟ้าน้อยลง ทำให้กระแสไฟฟ้าไหลผ่านร่างกายได้ง่ายขึ้น แม้จะมีระบบสายดินที่ดีก็ตาม
  4. ตรวจสอบสายไฟและปลั๊กไฟสายไฟและปลั๊กไฟที่ชำรุดอาจทำให้เกิดไฟรั่วได้ให้ตรวจสอบสายไฟและปลั๊กไฟหากติดตั้งสายดินแล้วยังพบว่าไฟดูดหากพบว่าชำรุดให้เปลี่ยนทันที
  5. ตรวจสอบระบบไฟฟ้าในบ้าน ระบบไฟฟ้าภายในบ้านที่พบมักจะเป็นระบบสายดินหลอก นั่นคือ มีปลั๊กเสียบสายดิน แต่ไม่ได้ต่อสายดิน ควรตรวจสอบระบบไฟฟ้าภายในบ้านให้มีการติดตั้งสายดินที่ถูกต้องและมีประสิทธิภาพ

สิ่งที่ควรทำเมื่อรู้สึกไฟดูด

  1. ตัดกระแสไฟฟ้า หากรู้สึกว่าโดนไฟดูด ให้รีบถอดปลั๊กไฟของคอมพิวเตอร์ออกทันที
  2. ตรวจสอบสายไฟและปลั๊กไฟ ตรวจสอบสายไฟและปลั๊กไฟว่ามีรอยชำรุดหรือไม่
  3. ตรวจสอบการต่อสายดิน ตรวจสอบว่าคอมพิวเตอร์มีการต่อสายดินอย่างถูกต้องหรือไม่
  4. ติดต่อช่างผู้ชำนาญ หากไม่สามารถหาสาเหตุได้ หรือหากยังคงรู้สึกว่าโดนไฟดูด ให้ติดต่อช่างไฟฟ้าผู้ชำนาญเพื่อตรวจสอบ

ข้อควรระวัง !

  • หากรู้สึกว่าโดนไฟดูดอย่างรุนแรง หรือมีอาการผิดปกติอื่นๆ เช่น หัวใจเต้นผิดจังหวะ ให้รีบไปพบแพทย์ทันที
  • การซ่อมแซมอุปกรณ์ไฟฟ้าควรทำโดยช่างผู้ชำนาญเท่านั้น

นอกจากนี้ อุปกรณ์ที่เสี่ยงต่อการโดนไฟดูด ได้แก่ กระทะไฟฟ้า เครื่องทำน้ำอุ่น เครื่องเสียงในบ้านรุ่นเก่า ฯลฯ เป็นต้น หากมีการติดตั้งสายดินและต่อเครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านี้ลงกราวด์หรือสายดินจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งาน