เก็บไฟล์ข้อมูลไว้ที่ไหนดี เคล็ดลับที่ควรรู้ก่อนจะสาย

ปกติ จะไม่เก็บข้อมูลถาวรไว้ในเครื่องเพียงอย่างเดียว ควรมีสำรองหลายๆที่

การเลือกสถานที่เก็บข้อมูลที่ดีที่สุดนั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น ประเภทของข้อมูล ปริมาณข้อมูล ความปลอดภัย และความสะดวกในการเข้าถึง

หากคุณใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีความเร็วสูง อุปกรณ์ในการจัดเก็บข้อมูลในยุคสมัยเก่าอย่างเช่น ฮาร์ดดิสก์ที่เป็นชนิดจานหมุนไม่สามารถใช้งานบนระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่อย่าง Windows 11 ได้ การจัดเก็บข้อมูลบน SSD ที่มากับ Windows 11 ย่อมมีความเสี่ยง มาดูเหตุผลกัน

ความเสี่ยงในการจัดเก็บข้อมูลบน SSD

  1. มีการจำกัดการอ่านและเขียนที่เรียกว่า ค่า Random Write – Random Read หรือค่า IOPS  คือหน่วยวัดจำนวนการทำรายการต่อวินาทีสำหรับอุปกรณ์บันทึกข้อมูล ซึ่งเมื่อการใช้งานถึงเกณฑ์จะไม่สามารถเข้าถึงข้อมุลภายในได้และชำรุดไม่สามารถแก้ไขได้ (แม้จะมีค่า IOPS เป็นตัวกำหนด แต่ก็มีค่าที่มากพอที่จะใช้งานเกิน 5 ปีขึ้นไปได้)
  2. การเก็บข้อมูลบนซิฟเก็บข้อมูลมีความเสี่ยงมากกว่าการเก็บข้อมูลบนจานหมุน (ฮาร์ดดิสก์) ถ้าหากซิฟเก็บข้อมูลมีปัญหา จะไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลได้เลย เสี่ยงต่อข้อมูลหายเป็นอย่างมาก
  3.  การกู้ข้อมูลบน SSD ค่อนข้างทำได้ยาก เพราะหากไม่สามารถตรวจสอบอุปกรณ์ได้ หรืออุปกรณ์ไม่ทำงาน ก็จะไม่สามารถกู้ข้อมูลได้ แม้อุปกรณ์ SSD ทำงานก็ยังกู้ได้ยากอยู่ดีเพราะการเก็บข้อมูลบนซิฟไฟล์จะกู้ยากกว่าฮาร์ดดิสก์
Risk data of ssd

การเก็บข้อมูลให้ปลอดภัย

เมื่อคุณทราบความเสี่ยงเกี่ยวกับการเก็บไฟล์ข้อมูลบน SSD แล้ว การป้องกันไว้ก่อนเป็นทางแก้ที่ดีที่สุด หากคุณมีความจำเป็นต้องเก็บข้อมูลดังต่อไปนี้

คุณควรแยกประเภทในการเก็บข้อมูลออกอย่างเป็นระบบอย่างเช่น ไฟล์เอกสาร (Documents) word, excel หรืองานนำเสนอ  เพื่อให้ง่ายต่อการค้นหาข้อมูล

  1. ไฟล์เอกสาร (Documents) หากคุณใช้งาน Office 365 จะเป็นการเก็บข้อมูลอัตโนมัติไว้ที่ One drive มีระบบ Auto save คุณสามารถทำงานไปได้โดยไม่ต้องกลัวไฟล์หาย แต่หากคุรไม่ได้ใช้ Office 365 คุณควรจะเก็บไฟล์เอกสารไว้ในไดร์ฟออนไลน์อย่างเช่น Google drive ซึ่งคุณได้พื้นที่จัดเก็บเอกสารฟรี 15 GB หรือ One drive แม้แต่ Dropbox ก็ได้เช่นกัน
  2. ไฟล์นำเสนอ  Power Point คุณจะเก็บไว้ที่เดียวกับไฟล์เอกสาร แต่เพื่อความสะดวกคุณอาจจะใช้วิธีการนำเสนอแบบอื่นก็ได้ เช่น Canva จะมีระบบการจัดเก็บไฟล์แบบ Realtime สามารถนำเสนอที่ใดก็ได้
  3. ไฟล์เพลง mp.3 เก็บไว้ในเครื่องก็ได้ หรือจะเก็บไว้ใน External HDD ก็ได้เพราะเพลงสามารถค้นหาใหม่ได้ เมื่อข้อมูลสูญหาย
  4. ไฟล์วีดีโอ คลิปวีดีโอ หากเป็นผลงานที่สร้างสรรค์ควรจัดเก็บไว้ใน External HDD ที่เป็๋นจานหมุน และอัพโหลดเก็บไว้บน Youtube โดยตั้งค่าความสำคัญเอาไว้ สำหรับ สาธารณะ หรือ ผู้มีลิงค์ หรือส่วนตัว
  5. ไฟล์รูปภาพ หากเป็นรูปภาพจากกล้องมือถือ และไม่สะดวกที่จะใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ ควรจัดเก็บไว้ใน External HDD เช่นเดียวกับไฟล์วีดีโอ แต่ถ้าให้แนะนำการเก็บภาพถ่ายควรเก็บไว้ใน Cloud storage ดีกว่า เพราะสามารถเรียกดู เรียกใช้ได้ตลอดเวลา การจ่ายเงินค่า Google drive หรือ ค่า iCloud ในการเก็บรูปภาพจะมีความคุ้มค่ามากกว่า
CloudStorage

ข้อแนะนำเพิ่มเติม

  1. ควรติดตั้งฮาร์ดดิสก์เพิ่มเติมภายในเครื่อง (หากสามารถติดตั้งได้) หรือการเลือกซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ควรจะมีฮาร์ดดิสก์ติดตั้งมาด้วย และการจัดเก็บข้อมูลควรจัดเก็บไว้บนไดร์ฟที่เป็นฮาร์ดดิสก์
  2. ควรมี External HDD ไว้จัดเก็บข้อมูลด้วย ไม่ควรจัดเก็บข้อมูลไว้ที่เดียว โดยลำดับความสำคัญข้อมูลของคุณ
  3. หากคุณมีข้อมูลที่ต้องใช้บ่อยควรเซฟข้อมูลในใส่แฟลซไดร์ฟ หากสถานที่ทีุ่ณต้องใช้เป็นสถานที่ออฟไลน์และเข้าถึงอินเตอร์เน็ตไม่ได้

ข้อสรุป

ารเลือกไดรฟ์สำหรับเก็บข้อมูลนั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง แนะนำให้พิจารณาประเภทของข้อมูล พื้นที่เก็บข้อมูลที่ต้องการ และความเสี่ยงในการสูญเสียข้อมูล เลือกไดรฟ์ที่เหมาะสมกับการใช้งาน