หากคุณเปลี่ยน SSD แล้วพื้นที่หายไปหลายร้อย GB อย่าเพิ่งตกใจ ฝ่ายไอทีหรือคุณอาจจะลืมทำข้อนี้ก็ได้
สาเหตุหลักที่พื้นที่ SSD หายไป
- ติดตั้ง Windows 11 แล้วแบ่ง Partition เฉพาะไดร์ฟ C
- โปรแกรมที่ติดตั้งไว้ มีขนาดใหญ่รวมทั้ง ไฟล์เกม ไฟล์หนัง เพลง รูปภาพ
- ไฟล์ขยะหรือ Temp File ภายในเครื่อง
วิธีการตรวจสอบพื้นที่ SSD ที่หายไป
1. ติดตั้ง Windows 11 แล้วแบ่ง Partition เฉพาะไดร์ฟ C
หากคุณเพิ่งเปลี่ยน SSD หรือนำเครื่องคอมพิวเตอร์ไปทำการล้างเครื่องเพื่อติดตั้ง Windows 11 ใหม่
(ล้างเครื่องคือการฟอแมตเครื่องครับไม่ได้ใช้น้ำฉีดล้างแต่อย่างใด)
ภายหลังจากการติตั้ง Windows 11 ตรวจสอบพบว่า SSD ที่ซื้อมา และ ไดร์ฟ C มีขนาดไม่เท่ากัน หากหายไปหลายสิบถึงหลักร้อย GB นั่นหมายถึงว่าในกระบวนการติดตั้ง Windows 11 ได้มีการ “แบ่งพาร์ทิชัน” ไปนั่นเอง

วิธีตรวจสอบพื้นที่ SSD ที่หายไปภายหลังจากการติดตั้ง Windows 11
- คลิ๊กขวาที่ “This PC” เลือกเมนู “Manage”
- เลือกหัวข้อ “Disk Management”
- ตรวจสอบ “Disk 0” มีขนาดพื้นที่ใกล้กับ SSD ที่มีในเครื่องหรือไม่
- พบ “Partition” ที่ยังไม่ได้สร้าง



ทำการสร้างพื้นที่จัดเก็บข้อมูล
- คลิ๊กขวาที่พื้นที่ว่าง “Unallocated” เลือกเมนู “New Simple Volume”
- หน้าจอ Welcome to the New Simple Volume Wizard กด “Next”
- หน้าจอ Assign Drive Letter or Path หน้าจอกำหนดไดร์ฟ ตามที่ต้องการในภาพเป็นไดร์ฟ D คุณไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนก็ได้ กด “Next”
- หน้าจอ Format Partition กด “Next”
- เสร็จสิ้นการสร้างพื้นที่





2.โปรแกรมที่ติดตั้งไว้ มีขนาดใหญ่รวมทั้ง ไฟล์เกม ไฟล์หนัง เพลง รูปภาพ
- ควรถอดถอนโปรแกรมขนาดใหญ่ที่ไม่ได้ใช้งาน
- ย้ายไฟล์ที่มีขนาดใหญ่ และมีความสำคัญ โดยเฉพาะรูปภาพ และเอกสารเก็บไว้ที่ฮาร์ดดิสก์แทน SSD
3.ไฟล์ขยะหรือ Temp File ภายในเครื่อง
- ล้างไฟล์ขยะ ใช้ Disk Cleanup หรือโปรแกรม CCleaner ลบไฟล์ขยะ ไฟล์ชั่วคราว ไฟล์ temp
พื้นที่ SSD ที่หายไปนั้น หากพื้นที่หายไปอย่างมากมายใน 100 GB ขึ้นไป หลักๆแล้วมักจะพบว่าไม่ได้สร้างพื้นที่เก็บข้อมูลขึ้นมา หากคุณตรวจสอบพื้นที่ที่หายไปจากการใช้งานวิธีแก้ดังข้อ 2 และ ข้อ 3
หากคุณตรวจสอบพบว่าพื้นที่เก็บข้อมูลไม่ตรงกับปกที่ซื้อมา เช่น SSD 256 GB แต่พบพื้นที่จริง 250 GB นั่นเป็นเพราะมาตรฐานของผู้ผลิตนั่นเอง คุณสามารถไขข้อสงสัยเรื่องนี้จากลิงค์ SSD กับพื้นที่ที่หายไป