3 โปรแกรมที่แนะนำ Photoshop, Affinity Photo, GIMP
Affinity Photo, Photoshop และ GIMP เป็นโปรแกรมแก้ไขภาพยอดนิยมที่มีคุณสมบัติมากมาย อย่างไรก็ตาม โปรแกรมเหล่านี้มีจุดแข็งและจุดอ่อนที่แตกต่างกัน
ใครที่กำลังมองหาโปรแกรมตกแต่งรูปภาพ เอาไว้ใช้ทำงานไม่ว่าจะเป็นมืออาชีพ หรือเอาไว้ทำงานอดิเรก โปรแกรมที่ดีที่สุด ก็ย่อมหลีกหนีไม่พ้น Adobe Photoshop ซึ่งเป็นโปรแกรมที่นิยมที่สุดในอาชีพนักตกแต่งภาพ หรือแม้ว่าจะเป็นมือสมัครเล่นที่ลองหัดใช้ แต่ด้วยข้อจำกัดหลายประการเช่นค่าลิขสิทธิ์ในการเช่าใช้โปรแกรม Adobe Photoshop ค่อนข้างที่จะสูง แต่ก็มีเหตุผลที่จะต้องเช่าใช้ต่อไป โดยที่ผมจะกล่าวถึงโปรแกรมตัดต่อรูปภาพที่หยิบยกมา 3 ค่าย ดังนี้
- Adobe Photoshop
- Affinity Photo
- GIMP
Adobe Photoshop
เป็นโปรแกรมแก้ไขภาพ แบบชำระเงินที่พัฒนาโดย Adobe โปรแกรมนี้เป็นผู้นำตลาดในด้านซอฟต์แวร์แก้ไขภาพและมีคุณสมบัติมากมายที่หลากหลาย Photoshop เป็นที่รู้จักในด้านความเก่งกาจและความสามารถในการทำงานกับไฟล์ภาพทุกประเภท โปรแกรมนี้ยังเป็นที่นิยมในหมู่มืออาชีพด้านภาพถ่ายและการออกแบบกราฟิก
คุณสมบัติของโปรแกรม Adobe Photoshop
- Adobe Photoshop เป็นโปรแกรมแก้ไขภาพและกราฟิกที่มีความสามารถสูงมาก และมีฟังก์ชันที่หลากหลาย เหมาะสำหรับผู้ที่ทำงานด้านกราฟิกอาชีพ
- ใช้งานได้ทั้งบน Windows และ Mac แต่ยังไม่รองรับบน Linux
- มีการอัปเดตแบบประจำและมีค่าใช้จ่ายรายเดือนหรือรายปี
- การใช้งานค่อนข้างยากเล็กน้อย
- มี Adobe Cloud ให้ใช้งาน ขึ้นอยู่กับแพลนที่เช่าใช้
- เชื่อมต่อได้แทบทุกแอพที่เป็นค่ายของ Adobe
โปรแกรม Adobe Photoshop ในมุมมองส่วนตัวนั้นเป็นโปรแกรมตกแต่งรูปภาพที่ดีที่สุด สาเหตุเพียงเพราะ โปรแกรมมี Adobe Cloud ซึ่งสามารถทำงานที่ไหนก็ได้ ความยืดหยุ่นของโปรแกรมถือว่าสูงมาก แต่ก็ต้องแลกด้วยค่าใช้จ่ายที่แพง สำหรับบุคคลทั่วไปที่ใช้ทำงานอดิเรก เช่น การรีทัชและตกแต่งรูปภาพท่องเที่ยวของตนเอง การตกแต่งรูปต่างๆ ที่ไม่ได้สร้างรายได้ให้กับตัวเอง แต่มันคุ้มค่ามากสำหรับมืออาชีพที่ใช้งานด้านนี้โดยตรง ผลงานที่สร้างรายได้ให้กับตนเอง การเช่า Adobe Photoshop พร้อม Adobe Lightroom ถือว่าคุ้มค่ามาก
Affinity Photo
Affinity Photo เป็นโปรแกรมที่มีคุณสมบัติและอินเตอร์เฟซที่คล้ายกับ Adobe Photoshop และมีความสามารถสูงในการแก้ไขภาพและกราฟิก
คุณสมบัติของ Affinity Photo
- ใช้งานง่าย เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น
- มีการอัปเดตบ่อยครั้ง และมีค่าใช้จ่ายสำหรับการซื้อเพียงครั้งเดียว แต่หากข้ามเวอร์ชันก็ต้องซื้อใหม่ เช่น เวอร์ชัน 1.0 เปลี่ยนไปเป็น เวอร์ชัน 2.0 แต่การอัพเดตย่อยไม่ต้องซื้อใหม่
- ราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับ Photoshop
- ใช้งานได้ทั้งบน Mac, iPadOS และ Windows
โปรแกรม Affinity Photo เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ทำงานมืออาชีพและทำเป็นงานอดิเรก เพราะเป็นการซื้อโปรแกรมเพียงครั้งเดียว สามารถใช้งานได้ตลอดเวอร์ชัน และราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับ Photoshop ที่ต้องจ่ายรายเดือน ส่วนตัวผมก็ใช้โปรแกรมนี้ โดยซื้อโปรแกรมแบบ Multi Universal สาเหตุเพราะซื้อครั้งเดียว ใช้ได้ทุกโปรแกรมและทุกแพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะเป็น Windows, Mac, iPadOS ในราคาที่ไม่ถึง 5000 บาท หากซื้อในช่วงปลายปีหรือ Black Friday ราคาลดราคาถึง 25-50% เลยทีเดียว อีกทั้งเป็นโปรแกรมที่ใช้งานค่อนข้างง่ายกว่า แต่ข้อเสียคือ Affinity ไม่สามารถทำงานด้าน 3D ได้
GIMP
เป็นโปรแกรมแก้ไขภาพโอเพ่นซอร์สที่พัฒนาโดยมูลนิธิ GIMP โปรแกรมนี้ฟรีและมีคุณสมบัติมากมายที่คล้ายคลึงกับ Photoshop GIMP เป็นที่รู้จักในด้านความสามารถในการปรับแต่งและการสนับสนุนจากชุมชนขนาดใหญ่ของผู้ใช้และนักพัฒนา โปรแกรมนี้ยังได้รับการใช้โดยมืออาชีพบางราย แต่อาจไม่เหมาะสำหรับผู้ใช้มือใหม่
คุณสมบัติของ GIMP
- GIMP เป็นโปรแกรมแก้ไขภาพฟรีและโอเพนซอร์สที่มีความสามารถในการแก้ไขภาพและกราฟิก และเหมาะสำหรับผู้ใช้ทั่วไปและผู้ที่มีงบประมาณจำกัด
- มีชุดเครื่องมือพื้นฐานในการแก้ไขภาพและการสร้างงานศิลปะ แต่ไม่มีคุณสมบัติที่มีอยู่ใน Affinity Photo และ Photoshop
- เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ไม่ต้องการคุณสมบัติที่ซับซ้อนและไม่ต้องการใช้เงินในซอฟต์แวร์
สรุป
การเลือกโปรแกรมแก้ไขภาพที่เหมาะสมนั้นขึ้นอยู่กับความต้องการและระดับทักษะของคุณ หากคุณเป็นผู้ใช้ทั่วไปหรือมือสมัครเล่น Affinity Photo หรือ GIMP เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม โปรแกรมเหล่านี้มีราคาไม่แพงและใช้งานง่าย
แต่หากมีงบประมาณที่สูงและมีทักษะในการตกแต่งภาพที่ยอดเยี่ยม หรือเป็นมืออาชีพด้านภาพถ่ายหรือการออกแบบกราฟิก Photoshop เป็นตัวเลือกที่ดีกว่า โปรแกรมนี้มีเครื่องมือและคุณสมบัติที่หลากหลายที่เหมาะสำหรับงานขั้นสูง