ลืมรหัสผ่านและการค้นหารหัสผ่านบนเว็บเบราว์เซอร์

Forgot password on web browser

เว็บเบราว์เซอร์แต่ล่ะค่ายมีระบบในการจัดการเก็บประวัติและรหัสผ่าน

หากเริ่มต้นใช้งานครั้งแรกและทำการสร้างบัญชีเพื่อใช้งาน หรือมีบัญชีอยู่แล้วลงชื่อเข้าใช้งาน เว็บเบราว์เซอร์จะทำการบันทึกกิจกรรมที่คุณใช้งาน เช่นการท่องเว็บ การจดจำรหัสผ่าน เป็นต้น เพื่ออำนวยความสะดวกให้คุณ และแน่นอนเขาทำการจัดเก็บกิจกรรมทุกอย่างของคุณไว้เมื่อเวลาใช้งาน หากคุณไม่ต้องการมันก็สามารถใช้โหมดมืดหรือโหมดไม่ยืนยันตัวตนได้ แต่ผมว่าการจัดเก็บประวัติการใช้งานและพาสเวิร์ดก็ช่วยได้เยอะ สาเหตุเพราะเครื่องคอมพิวเตอร์มีทั้งที่บ้านและที่ทำงาน และการใช้งานบนมือถือ ผมสามารถดูประวัติการท่องเว็บที่ไหนก็ได้ และหากจำลิงค์ไม่ได้ ก็สามารถดูที่ประวัติการท่องเว็บซึ่งจะแสดงได้จากทุกเครื่องที่เราใช้งาน

การบันทึกประวัติและรหัสผ่านจะมีอยู่ในทุกเว็บเบราว์เซอร์ขึ้นอยู่กับเราเลือกใช้ เช่น

  1. Google Chrome เว็บเบราว์เซอร์ที่นิยมใช้มากที่สุด
    ข้อดี
    – ใช้ได้ทุกระบบปฏิบัติการ
    – มีความปลอดภัยและมีการอัพเดตแพทซ์ความปลอดภัยบ่อยครั้ง
    – ใช้งานง่าย
    ข้อเสีย
    – กินแรมเยอะ
    – ระบบของแคชไม่ค่อยอัพเดต เช่น การรีเฟซเฟคบุ๊คเจอแต่หน้าเดิม
  2. Mozilla Firefox เว็บเบราว์เซอร์ยอดฮิตสำหรับนักพัฒนาโปรแกรม
    ข้อดี
    – ใช้ได้ทุกระบบปฏิบัติการ
    – มีการอัพเดตแพทซ์ความปลอดภัยบ่อยครั้ง
    – การใช้งานมีความเป็นส่วนตัว
    ข้อเสีย
    – การใช้งานไม่ไหลลื่น
    – หน้าตาไม่ทันสมัยสักเท่าไหร่
    – มีปัญหาในการสั่งพิมพ์ไม่ตรงกับหน้าที่แสดงผล
  3. Safari เว็บเบราว์เซอร์จากค่าย Apple บันทึกรหัสผ่านและพาสเวิร์ดใน iCloud
    ข้อดี
    – มีระบบความปลอดภัยสูง
    – มีความเป็นส่วนตัว
    ข้อเสีย
    – ใช้งานได้แค่ผลิตภัณฑ์ของ Apple แต่ใช้งานได้ทุกอุปกรณ์ของ Apple
    – การใช้งานไม่ค่อยไหลลื่น
  4. EDGE เป็นเว็บเบราว์เซอร์จากค่ายไมโครซอฟต์
    ข้อดี
    – เร็ว
    – ใช้งานกับ Office 365 ได้ดี เพราะเป็นผลิตภัณฑ์ของไมโครซอฟต์
    – มีข่าวให้อ่านหลากหลาย
    ข้อเสีย
    – ไม่คุ้นเคย แม้จะมีการพัฒนาให้ดีเทียบเท่าหรือดีกว่าค่ายอื่นก็ตาม (มันดีอยู่นะ แต่สำหรับผมไม่ค่อยคุ้นเคยสักเท่าไหร่ คุณอาจจะมองเห็นข้อเสียที่มากกว่านี้)

ดังนั้น หากต้องการประวัติหรือรหัสผ่านที่เราลืม คุณจะเป็นต้องใช้งานเว็บเบราว์เซอร์นั้นๆ คุณต้องแน่ใจว่าคุณได้ลงชื่อเข้าใช้เว็บเบราว์เซอร์นั้นในเครื่องของคุณ (การลงชื่อเข้าในในเว็บเบราว์เซอร์ในเครื่องที่ไม่เป็นส่วนตัวหรือเป็นสาธารณะควรลงชื่อเข้าใช้แบบไม่ระบุตัวตนหรือล็อกเอาท์ออกจากระบบทุกครั้งหลังใช้งาน)

หากคุณลืมรหัสผ่านและต้องการค้นหาหรือกู้คืนรหัสผ่านบนเว็บเบราวเซอร์ของคุณ

เช่น Google Chrome, Mozilla Firefox, Microsoft Edge, Safari หรืออื่น ๆ สามารถทำตามได้ดังนี้

  1. Google Chrome
    – หากคุณเชื่อมต่อบัญชี Google กับเบราวเซอร์ Chrome ของคุณ และคุณใช้การจัดเก็บรหัสผ่านใน Chrome, คุณสามารถไปที่
    chrome://password-manager/passwords
    (copy ข้อความดังกล่าวนี้ไปวางที่ URL ใน Google Chrome) เพื่อดูและจัดการรหัสผ่านที่บันทึกอยู่ที่นี่
    – การเข้าดูจะต้องใช้รหัสผ่าน User ในเครื่องคอมพิวเตอร์ (รหัสที่ใช้ Login คอมพิวเตอร์จึงจะเข้าดูได้)
  2. Mozilla Firefox
    ไปที่
     “about:preferences#privacy”
    (copy ข้อความดังกล่าวนี้ไปวางที่ URL ใน Mozilla Firefox ) เลื่อนลงไปที่แถบที่อยู่ของ “Logins and Passwords” คลิกที่ “Saved Logins” เพื่อดูและจัดการรหัสผ่าน
  3. Safari
    ไปที่
    Safari” > “setting” > “Passwords” ใน macOS.
    คุณจะต้องใช้รหัสผ่านเข้าสู่ระบบของ macOS ก่อนที่คุณจะสามารถดูรหัสผ่านที่บันทึกไว้ใน Safari
  4. Microsoft Edge
    ไปที่ “edge://settings/passwords” (copy ข้อความดังกล่าวนี้ไปวางที่ URL ใน Microsoft EDGE)ในแถบที่อยู่ของ Edge เพื่อดูรายการรหัสผ่านที่บันทึกไว้

หากคุณไม่พบรหัสผ่านที่คุณต้องการในรายการรหัสผ่านที่บันทึกไว้ หรือหากคุณไม่เชื่อมต่อบัญชีเพื่อจัดเก็บรหัสผ่านในเบราวเซอร์ คุณอาจต้องใช้วิธีอื่น ๆ เช่นการติดต่อกับผู้ดูแลเว็บไซต์หรือใช้บริการกู้คืนรหัสผ่านของเว็บไซต์เพื่อกู้คืนรหัสผ่านของคุณ โดยใช้ข้อมูลสำหรับการยืนยันตัวตนที่คุณได้ลงทะเบียนไว้กับเว็บไซต์นั้น ๆ

Google Chrome setting
Google Chrome setting
Mozilla Firefox setting
Mozilla Firefox setting
Safari setting
Safari setting
Edge setting
Edge setting