วิธีเลือกซื้อคอมพิวเตอร์ให้เหมาะกับการใช้งาน

Buying computer or labtop

ปัญหาสำหรับหลายคน ที่กำลังจะซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์หรือแล็ปท็อปไว้ใช้งาน แต่ไม่ทราบว่าตนเองต้องซื้อคอมพิวเตอร์หรือแล็ปท็อป ควรซื้อแบบไหน และควรมีแรมเท่าไหร่ ซีพียูแบบไหน ยี่ห้อไหนดี บทความนี้จะเป็นส่วนหนึ่งในการพิจารณา

  • การเลือกซื้อคอมพิวเตอร์หรือแล็บท็อปตามงบประมาณที่มี
  • การเลือกซีพียู
  • การเลือกความจุของแรม ให้เหมาะสม
  • การเลือกอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล
  • การเลือกซื้อคอมพิวเตอร์ตามแบรนเนม
  • สรุป

การเลือกซื้อคอมพิวเตอร์หรือแล็บท็อปตามงบประมาณที่มี

เป็นธรรมเนียมปฏิบัติกันมาช้านาน การที่จะซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์หรือแล็บท็อปสักเครื่อง ก็ต้องดูงบประมาณในกระเป๋าเงินเสียก่อน หากงบน้อย ก็ซื้อคอมพิวเตอร์หรือแล็ปท็อปได้ แต่ก็ไม่ได้สเปคที่ดีมากนัก หากงบมาก ก็ได้คอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพดี ซึ่งการเลือกซื้อคอมพิวเตอร์หรือแล็ปท็อปก็ต้องดูที่งบประมาณครับ อย่างน้อยก็ 10,000 บาทขึ้นไป แต่หากงบประมาณไม่ถึง 10,000 บาท ก็ยากที่จะซื้อคอมพิวเตอร์ได้สักเครื่อง แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ หากเราไปซื้อคอมพิวเตอร์มือสอง(เสี่ยงดวงเอง) และคอมพิวเตอร์ที่ประกอบเอง ก็จะอาจจะเพียงพอต่อการใช้งาน ดังนั้น เรามาเลือกดูอุปกรณ์ที่เราจำเป็นต้องซื้อครับ

การเลือกซีพียู (CPU)

หัวใจหลักของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ขาดไม่ได้คือหน่วยประมวลผลหลักหรือที่เรียกกันติดปากว่า CPU ยิ่งมีประสิทธิภาพสูงเท่าไหร่ก็ยิ่งแพง หากเราดูตามงบประมาณแล้วว่างานของเราเหมาะกับ CPU ระดับไหน เช่น

  • งานเอกสารทั่วไป ที่ไม่ต้องการประมวลผลกราฟิกหนัก คุณไม่จำเป็นต้องใช้ CPU ที่มีสเปกสูงมากเกินไป แต่ควรเลือก CPU ที่มีประสิทธิภาพเพียงพอสำหรับงานเหล่านี้ เนื่องจากงานเอกสารมักใช้โปรแกรมออฟฟิศที่ไม่มีความต้องการระบบที่มากมาย ดังนั้น CPU ที่เหมาะสำหรับงานเอกสารคือ CPU รุ่นที่มีความเร็วสูงกว่าหรือเทียบเท่ากับ 2.5 GHz และมีความสามารถในการประมวลผลหลายคอร์ เช่น CPU Intel Core i5, i7, หรือ AMD Ryzen 5, Ryzen 7 จะเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับงานเอกสาร แต่หากงบประมาณไม่เพียงพอก็ต้องจำกัด CPU ลงมา เช่น i3 หรือ Ryzen 3
  • สำหรับงานกราฟิกระดับกลาง หากไม่จำกัดในเรื่องของงบประมาณ และต้องใช้คอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพกลางไปจนถึงคุณภาพสูง คุณจะต้องมองหา CPU ที่มีความสามารถในการประมวลผลกราฟิกและมัลติมีเดียที่ดี เนี่องจากงานกราฟิกและการสร้างเนื้อหามักใช้ความสามารถและประสิทธิภาพของ CPU มากน้อยต่างกัน เช่น รุ่นล่าสุดของ CPU Intel Core i5 และ i7 หรือ AMD Ryzen 5 และ Ryzen 7  ที่มีความเร็วสูงกว่า 3.0 GHz  และเลือกใช้  CPU แบบ Multicore ที่มีมากกว่าหนึ่งคอร์ (มัลติคอร์) จะช่วยในการทำงานพร้อมกันหลายงานและให้ประสิทธิภาพสูงขึ้น เช่น CPU ที่มี 4 คอร์หรือมากกว่านั้น

 

CPU

การเลือกแรม (RAM)

การเลือกแรมก็ปัญหาหนักใจสำหรับใครหลายๆ คนที่กำลังมองหาคอมพิวเตอร์หรือแล็บท็อปเครื่องใหม่ว่าการใช้งานของตัวเองนั้น ควรใช้แรมเท่าไหร่ดีนะถึงจะไหลลื่นไม่มีสะดุดทุกการทำงาน

  • RAM 4GB: เหมาะสำหรับผู้ใช้งานทั่วไป
    ที่ใช้คอมพิวเตอร์เพื่อเล่นอินเทอร์เน็ต การใช้งานโปรแกรม Microsoft Office พื้นฐาน
  • RAM 8GB: เหมาะสำหรับเกมเมอร์, นักวาดภาพที่ต้องการเปิดใช้งานหลายๆ โปรแกรมพร้อมกัน รวมไปถึงการเล่นเกมสเปคทั่วไป
  • RAM 16GB: เหมาะสำหรับผู้ทำงานด้านกราฟิก, ตัดต่อวิดีโอ, โปรแกรมเมอร์, เกมเมอร์, ผู้ใช้งาน Excel สูตรซับซ้อนและเชื่อมต่อกันหลายชีท ด้านการทำงาน RAM 16GB จะทำให้การตัดต่อวิดีโอและเขียนโปรแกรมของคุณไม่มีสะดุด ประมวลผลการทำงานทั่วไปได้รวดเร็วไม่ต้องรอนาน และสามารถเล่นเกมระดับ AAA โดยปรับภาพกราฟิกระดับสูงได้
  • RAM 32GB ขึ้นไป: เหมาะสำหรับผู้ทำงานด้านกราฟิก, งานตัดต่อวิดีโอแบบมืออาชีพ, โปรแกรมเมอร์, เกมเมอร์, ผู้เล่นเกม VR การใช้ RAM 32GB ขึ้นไปจะอยู่ในงานระดับองค์กรที่ต้องใช้โปรแกรมประมวลผลระดับสูง การตัดต่อกราฟิกทำเพลงและวิดีโอระดับสูงที่ซ้อนหลาย Layer และการ Render ภาพเสมือนจริง ตลอดจนสายเกมเมอร์ระดับโปรที่มักต้องการความลื่นไหลและประสิทธิภาพในการเล่นเกม
RAM

การเลือกอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล

อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล หรือที่เราคุ้นเคยกับคำว่า “ฮาร์ดดิสก์” มีไว้เพื่อจัดเก็บ Windows และข้อมูลงานต่างๆ การเลือกซื้ออุปกรณ์เก็บข้อมูลขึ้นอยู่กับความต้องการและวัตถุประสงค์ของคุณ นี่คือบางตัวเลือกที่คุณอาจต้องพิจารณา

  • ฮาร์ดดิสก์ (Hard Disk ) ฮาร์ดดิสก์เป็นอุปกรณ์เก็บข้อมูลที่มีความจุใหญ่และราคาถูก มักใช้สำหรับการจัดเก็บข้อมูลที่ไม่ต้องการการเข้าถึงข้อมูลอย่างรวดเร็ว เช่น การจัดเก็บไฟล์สำรองข้อมูล วิดีโอ หรือไฟล์ข้อมูลทั่วไป ปัจจุบันฮาร์ดดิสก์ไม่เหมาะแก่การจัดเก็บข้อมูลจำพวกระบบปฏิบัติการแล้ว ดังนั้นควรเลือกอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลแบบ Solid state drive ในการจัดเก็บระบบปฏิบัติการ คุณควรซื้อฮาร์ดดิสก์ไว้เพื่อเก็บข้อมูล
  • เอสเอสดี หรือ SSD (Solid state drive) เร็วกว่าฮาร์ดไดรฟ์ HDD มีประสิทธิภาพสูงในการเข้าถึงข้อมูล มักใช้สำหรับระบบปฏิบัติการและโปรแกรมที่ต้องการความเร็ว การรับรองว่าข้อมูลที่สำรองไว้ถูกแสดงที่หน่วยความจำที่เร็วที่สุด
  • การรับประกันสินค้า เป็นส่วนที่การันตีว่าสินค้าดี ยิ่งรับประกันนาน ยิ่งว่าดี 
  • ความจุ ควรเลือกอุปกรณ์เก็บข้อมูลที่มีความจุที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณ ถ้าคุณจัดเก็บไฟล์ข้อมูลเป็นประจำหรือต้องการพื้นที่มาก ควรเลือกอุปกรณ์ที่มีความจุสูง ความจุสามารถเลือกได้ตามงบประมาณ ถ้าหากคอมพิวเตอร์ของคุณใช้ทั้งฮาร์ดดิสก์และเอสเอสดีได้ ควรเลือกเอสเอสดีเป็นที่เก็บระบบปฏิบัติการ และฮาร์ดดิสก์เก็บข้อมูล
SSD

การเลือกซื้อคอมพิวเตอร์แบรนด์เนม

สามารถพิจารณาได้ดังนี้

  • คุณภาพและการสนับสนุนรวมถึงการรับประกันสินค้า บริษัทคอมพิวเตอร์แบรนด์เนมมักมีคุณภาพที่ดีในการออกแบบและผลิตคอมพิวเตอร์ และมักมีบริการซัพพอร์ตที่ดี คุณสามารถรับการสนับสนุนทางเทคนิคและประกันสินค้า
  • ระบบปฏิบัติการและซอฟต์แวร์ที่เข้ากันได้ คอมพิวเตอร์แบรนด์เนมมักจะมีระบบปฏิบัติการและซอฟต์แวร์ที่มีการรับรองและทดสอบเพื่อให้เหมาะสมและเข้ากันได้กับอุปกรณ์และซอฟต์แวร์อื่น ๆ อย่างถูกต้อง
  • ความมั่นคงของแบรนด์ บริษัทคอมพิวเตอร์แบรนด์เนมที่มีชื่อเสียงมักมีความมั่นคงและประสิทธิภาพที่ดีในตลาด มีรายงานการดำเนินการทางธุรกิจที่น่าเชื่อถือ

สรุป

การเลือกซื้อคอมพิวเตอร์หรือแล็บท็อปควรที่จะเลือกให้เหมาะสมกับงาน  เช่น 

านเอกสาร ดูหนังฟังเพลง เล่นเน็ต

  • CPU รุ่นที่มีความเร็วสูงกว่าหรือเทียบเท่ากับ 2.5 GHz
  • RAM 4 GB
  • SSD 250 – 256 GB 
  • Harddisk 1 TB

หมายเหตุ ถ้าหากไม่มีการจัดเก็บข้อมูลก็ไม่ต้องใช้ Harddisk

งานกราฟฟิกระดับกลาง – สูง จะไม่สามารถกำหนดงบประมาณในการจัดซื้อได้ ซึ่งความเร็วและประสิทธิภาพจะได้ตามงบประมาณที่มี เช่น การที่คุณมีเงินไม่ต่ำกว่า 20000 บาท คุณสามารถจัดเครื่องคอมพิวเตอร์หรือแล็บท็อปที่มีความเร็วสูงได้ แต่หากคุณมีงบประมาณที่เยอะ คุณก็สามารถจัดซื้อคอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพที่สูงขึ้น

ดังนั้นการที่คุณจะซื้อคอมพิวเตอร์หรือแล็บท็อปสักเครื่อง เรื่องของงบประมาณในการซื้อเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งครับ