เราก็ไม่เคยรู้ แต่เราก็ต้องรู้ เพราะถ้าเราไม่รู้ เราก็ไม่รู้เลยปัญหาของสาย USB-C กับ 3 ปัญหาที่เราต้องรู้
สาย USB-C ทุกวันนี้กลายเป็นมาตรฐานไปแล้ว และผลิตภัณฑ์ของ Apple ก็ได้ปรับเปลี่ยนมาใช้ USB-C กันแล้วในรุ่นล่าสุดทั้ง iPhone, iPad, Mac แต่ในโทรศัพท์ที่เป็น Android ส่วนใหญ่ใช้ USB-C มาหลายปีแล้ว รวมทั้งฝั่ง Windows ก็มีอุปกรณ์ Notebook เริ่มใช้ USB-C เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ปัญหาไม่ได้อยู่ที่พอร์ต USB-C (ที่มีขนาดเสียบพอร์ตเท่ากัน) แต่กลับเป็นสาย USB-C เหมือนกันแต่ไม่ใช่ทุกสายจะทำงานเหมือนกัน
ง่ายคือ USB-C ไม่ได้ทำงานเหมือนกัน แต่เป็นสายแบบเดียวกัน เอ้า งงก็งงครับ
ใช้สาย USB-C ไม่ถูกประเภท อาจจะทำให้อุปกรณ์คุณพังได้
สิ่งที่ผู้ใช้ USB-C ต้องรู้ หาก USB ในรุ่นก่อนๆ สายเคเบิลก็อาจจะเรียกว่าสายเคเบิลเลยทีเดียว แน่นอนว่า หากคุณเสียบสาย USB 1 เข้ากับพอร์ต USB 2 เช่น USB รุ่นก่อนที่เป็นหัวเสียบแบบสี่เหลี่ยม แล้วมาออกเป็น Micro USB ก็ว่ากันไป เมื่อเสียบเข้ากับพอร์ตแล้วอาจจะใช้งานได้หรืออย่างน้อยก็ทำงานได้ดี มันจึงทำให้ผู้ใช้ส่วนใหญ่ไม่ต้องซื้อสายเพิ่มแต่อย่างใด ใช้ของเก่าก็ได้
แต่นั้นไม่ใช่กรณีของ USB-C และการที่คุณไม่สนใจเรื่องแบบนี้อาจจจะทำให้อุปกรณ์พัง และได้ซื้ออุปกรณ์ใหม่ ซึ่งเสียค่าใช้จ่ายเป็นอย่างมาก
ปัญหาที่เกินขึ้นเฉพาะกับสายเคเบิ้ล ที่มีขั้วต่อ USB-A รุ่นเก่า และปลายอีกด้านเป็น USB-C ใหม่ในอีกด้านนึง แต่ปลายอุปกรณ์ที่เป็น USB-C รองรับการชาร์จเร็วและส่งข้อมูลได้มากกว่า USB-A เช่น หากคุณเสียบอุปกรณ์ USB-A ( เช่นโทรศัพท์มือถือ ) เข้ากับพอร์ต USB-Cโดยใช้สายเคเบิลเหล่านี้ โทรศัพท์อาจจะใช้พลังงานมากเกินไปอาจจะทำให้โทรศัพท์พัง (ง่ายๆคือ กระแสที่พอร์ต USB-A ที่มาจากมันน้อยกว่ากระแสที่ต้องการในโทรศัพท์ มันไม่เพียงพอ ทำให้โทรศัพท์พัง)

USB-C ทั้งหมดไม่เหมือนกัน
USB-A ตามที่กล่าวมาแล้ว คืออะไรก็ตามที่เสียบเข้าไปแล้วใช้งานได้ แต่ USB-C ไม่ได้เป็นแบบเดียวกับ USB-A เพราะ USB-C บางตัวรองรับ 2.0 แต่ไม่รองรับ 3.1 หรือบางตัวจะเป็น USB3.0 หรือ 3.1
ดังนั้นจึงควรใช้พอร์ตที่เป็น USB-C to USB-C จะช่วยให้ส่งข้อมูลได้ แต่ไม่ได้ถูกสร้างมาเท่ากันทั้งหมด ต้องเช็คให้ดีว่ามันใช้งานได้กับอุปกรณ์ของคุณหรือไม่ เช่น iPhone 15 รองรับ USB-C 2.0 แต่ iPhone 15 Pro รองรับ USB-C 3.0 ที่มีการส่งข้อมูลที่มากกว่า
เรื่องดองเกิ้ลนรกมีจริง
แน่นอนว่า หากใครใช้ Macbook หรืออุปกรณ์ Apple ที่มีช่อง USB-C จำกัด หรือไม่พอใช้ ก็จำเป็นต้องใช้ดองเกิ้ล เพื่อเพิ่มจำนวนพอร์ต แต่ดองเกิลที่ราคาถูกจะสร้างปัญหาให้กับคุณ เพราะพอร์ต USB-C บางพอร์ตไม่รองรับโปรโตคอลการแสดงผลเดียวกัน ดังนั้นต้องดองเกิ้ลที่ใช้งานได้กับพอร์ตของคุณซึ่งมีราคาแพงมากขึ้น
ที่มา : How-To Geek , IT24Hrs